วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เทคโนโลยี CPU 10 รุ่น

                                                                                             


เทคโนโลยี CPU 10 รุ่น

1.ซีพียูตระกูล Core i7



i 7  เป็น CPU ที่เป็นระดับสูงของทาง intel  สามารถใช้งานได้ด้านประมวลผลสูงๆ ได้ดีไม่ว่าจะเป็นกราฟฟิก การตัดต่อวีดีโอ  ตัดต่อรูปภาพ หรือเล่นเกมหลักๆ  ต้องเป็นตัวนี้เลย  คุณสมบัติคือเป็น CPU ที่มีขนาด 4 Core  8 Threads สามารถที่จะประมวลผลได้เร็วมาก  รองรับการใช้งานได้ทุกรูปแบบในปัจจุบันเลยก็ว่าได้  ความเร็วตามท้องตลาดที่จำหน่ายจะอยู่ที่  3.4 – 3.9 GHz และมี Socket 1115  และ Socket 2011 ราคาจะอยู่ที่  9,000 – 35,000 เลยทีเดียวต้องบอกว่าสำหรับผู้ที่มีงบประมาณเยอะและผู้ทำงานด้านคอมพิวเตอร์เป็นหลักถึงจะคุ้มค่า แต่ก็มีหลายฟังก์ชันที่ไม่ครอบคลุม  จึงทำให้รีดพลังจริงๆ ของ CPU ตัวออกมาได้ไม่หมด



2.Intel Core i7-980X Extreme Edition ซีพียูหกคอร์ตัวแรกจากอินเทล





ทางด้านความเร็วนั้นก็จะเท่ากับตัว 975X คือที่ 3.33GHz พร้อมกับความเร็ว QPI ที่ 6400 MT/s เท่ากันเพียงแต่ 980X ตัวนี้จะมี QPI มาให้ถึง 2 ชุด ซึ่งต่างจากในรุ่นก่อนที่จะมีเพียงชุดเดียวเท่านั้น โดยมีจุดที่เปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดก็คือการเปลี่ยนจากซีพียูในแบบ Quad Core หรือ 4 คอร์ 8 เทรด มาเป็นซีพียูในแบบ Hexa Core หรือ 6 คอร์ 12 เทรด นั่นเอง ซึ่งเป็นซีพียูในแบบเดสก์ทอปที่มีจำนวนคอร์มากที่สุดในโลกในขณะนี้ ส่งผลให้เกมหรือโปรแกรมใดๆ ก็ตามที่อาศัยพลังจากซีพียูที่มีจำนวนคอร์มากๆ ก็จะได้รับประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงเพิ่มมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน มีขนาดของ L2 Cache เท่ากันที่ 256K ต่อคอร์ทำให้ซีพียูในรุ่นนี้จะมีอยู่ทั้งสิ้น 1.5MB (256Kx6) ส่วน L3 Cache นั้นจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 12MB จากเดิมที่จะมีอยู่เพียง 8MB นอกจากนั้นยังได้เพิ่มคำสั่ง AES ซึ่งทำหน้าที่ในการเข้ารหัสของข้อมูลเข้ามาส่งผลให้การทดสอบในส่วนนี้จะเห็นผลได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น





3.ซีพียูตระกูล Core i5





core-i5-sandybridge


พอมาดูในกลุ่มของเครื่องที่ราคาเกิน 20,000 บาท จะพบว่ารุ่นที่ใช้ i5-2450M ก็เริ่มมีการ์ดจอแยกใส่เข้ามาด้วยแล้ว ทำให้เกิดข้อเปรียบเทียบขึ้นมามากทีเดียวว่าจะซื้อรุ่นไหนดี ถ้าดูจากผลเทสทั้งที่เราเคยเทสมา รวมไปถึงผลเทสจากเว็บต่างประเทศ ก็จะพบว่าคะแนนที่ได้ต่างกันไม่มากนัก จนไม่น่าจะส่งผลกับการใช้งานปกติอย่างเห็นได้ชัด แต่ถ้างานไหนที่ต้องใช้ CPU คำนวณมากๆ เช่น การเรนเดอร์ การรันโปรแกรมหนักๆ อันนี้อาจจะเห็นผลต่างกันบ้างเล็กน้อยครับ
ที่มา:http://notebookspec.com/intel-core-i3-i5-i7/103923



4.โปรเซสเซอร์ Intel® Core™ i3 เจนเนอเรชั่น 4





                             



ประสิทธิภาพเหลือเชื่อและสุดยอดการแสดงผลภาพเริ่มต้นที่นี่ สัมผัสการแสดงภาพที่ราบรื่นไม่มีสะดุดด้วยโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ i3 เจนเนอเรชั่น 4 ที่ให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น และระบบความปลอดภัยในตัวเพื่อการปกป้องที่ล้ำลึกยิ่งกว่า1
เปลี่ยนแอพพลิเคชันไปมาได้อย่างสบายๆ ด้วยมัลติทาสกิ้งอันชาญฉลาดจาก Intel® Hyper-Threading Technology2สัมผัสภาพยนตร์ ภาพถ่าย และเกมที่ราบรื่นไม่มีสะดุดด้วยชุดประสิทธิภาพกราฟิกในตัวอันทรงพลัง—โดยไม่ต้องพึ่งฮาร์ดแวร์พิเศษ3

5.Intel® Core™2 Extreme processor













Intel® Core™2 Extreme processor คือโปรเซสเซอร์เดสก์ทอป quad-core รุ่นแรกของโลกที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุด
ของโปรเซสเซอร์ที่แตกต่างด้วยความสามารถในการใช้พลังงานที่คาดไม่ถึงสำหรับการใช้งานที่หลากหลายและมีผลการทดสอบ
ประสิทธิภาพที่เหลือเชื่อ Intel Core 2 Extreme processors QX9000 series สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีกระบวนการผลิต
 45 นาโนเมตร ซึ่งเป็นก้าวสำคัญก้าวใหญ่บนหนทางสู่การประมวลผลแบบ multi-core และการประมวลผลแบบขนาน

โปรเซสเซอร์นี้ได้รับการออกแบบเพื่อผู้ใช้พีซีที่ชื่นชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ และนักเล่นเกม การใช้งานมัลติมีเดียในปัจจุบันนี้ เช่น

 การสร้างแบบ 3D, การตัดต่อวิดีโอ/ ออดิโอ และการเรนเดอร์ รวมถึงการเล่นเกมใหม่ล่าสุดที่มีภาพสมจริง ต่างเน้นด้าน
การประมวลผลแบบเธรดเพื่อประสิทธิภาพและเป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถในการรองรับงานที่หนักหน่วงอย่างน่าทึ่งด้วย
โปรเซสเซอร์ quad-core
ที่มา:http://www.intel.com/

6.ซีพียู Core 2 Quad

                                     
                                             

สำหรับซีพียูในตระกูล Quad-Core นั้น ทางอินเทลจะได้มีการแบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลักๆด้วยกันคือ ในกลุ่มแรกจะเป็นซีพียูในระดับ

 Hi-End สำหรับกลุ่มที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุดหรือสำหรับกลุ่มนักเล่นเกมส์ตัวจริงรวมไปถึงกลุ่มบุคคลที่เรียกกันว่าโอเวอร์คล๊อกเกอร์
 สำหรับซีพียูในกลุ่มนี้จะมีรหัสเรียกว่า Core 2 Extreme QX9xxx เป็นตั้น ส่วนในอีกกลุ่มต่อมาก็จะเป็นกลุ่ม Mainstream 
หรือกลุ่มตลาดหลักทั่วไป สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานซีพียูในแบบ 4 แกนประมวลผลแต่ก็ไม่อยากจะจ่ายหนักจนเกินไป ซึ่งกลุ่มนี้จะมีรหัสเรียกซีพียูว่
 Intel Core 2 Quad Q9xxx ต่อมากับเรื่องราวของกระบวนการผลิตนั้น ณ ปัจจุบันก็ย่างก้าวเข้าสู่ยุคของ 45nm ที่มีรหัสการผลิตว่า Penryn 
สำหรับเรื่องราวความเป็นมาและเนื้อหาของ Penryn นี้นั้นก็สามารถติดตามได้จาก เปิดตัว Penryn Intel®Core™ ในยุค 45nm ซึ่งเราคงไม่ต้อง
มาอธิบายซ้ำกันอีกครั้งแล้วนะครับ วันนี้เราก็จะมาว่ากันที่ตัวสเป็คของเจ้า Core 2 Quad Q9300 กันโดยตรงเลย สำหรับกับซีพียูที่เรากล่าวถึงอยู่นี้
หากให้มาอธิบายหรือบอกเล่ากันเป็นตัวอักษรแล้วนั้น เชื่อว่าค่อนข้างจะเข้าใจได้ยากและเพื่อให้ง่ายต่อความเข้าใจเราก็มีตารางสเป็คเปรียบเทียบมาให้
ได้มองกันง่ายๆเลยว่า ซีพียูในแต่ละโมเดลแต่ละตระกูลนั้นมันมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง 


7.CPU Core 2 Duo

                                   





Core2 ( จาก Core2 DUO) ไม่ได้หมายถึงว่าเป็น Dual Core CPU เป็นคำว่า " DUO" ที่ตามมาต่างหากที่จะเป็นส่วนที่บอกว่าเป็น Dual Core



คำว่า Core2 น่าจะหมายถึง Intel Core รุ่นที่ 2 (Intel Core Micro architecture) มากกว่า... ที่พัฒนาต่อจาก Intel Core

( ที่ใช้ใน Core Solo/DUO สำหรับ Mobile CPU ที่มีรหัสว่า Yonah) แต่ขณะเดียวกัน Intel Core ที่ใช้ในตอนนี้น่าจะเป็น
ลักษณะของ "แบรนด์" มากกว่าเรื่องของเทคโนโลยี โดยเปรียบได้กับคำว่า Athlon/Turion ของฝั่ง AMD  ส่วนคำว่า DUO
เป็นตัวเสริมว่าเป็น Dual Core ซึ่งถ้าเปรียบกับ AMD ก็คือคำว่า X2 นั่นเอง



8.CPU Pentium Extreme

                                

ตัวท็อปสุดที่อินเทลได้เปิดตัวออกมาเป็นตัวชูโรงของ Dual-Core processor ของตนเองนั้น ก็มาในชื่อใหม่ครับ 
ในนาม Pentium Extreme Edition หรือผมขอเรียกเล่นๆ ว่า "เพนเทียม เอ๊กซ์" ซึ่งมีจุดเด่นกว่า Pentium D
 ตรงที่ นอกจากมันจะเป็นซีพียู Dual-Core แล้ว ในแต่ละคอร์ของมัน ยังมี Hyper-Threading technology
 อีก ซึ่ง Hyper-Threading technology จะทำการจำลองแต่ละคอร์ ให้กลายเป็นอีก 2 ซีพียู ส่งผลให้เจ้า เพนเทียม
 เอ๊กซ์ นี้ มีหน่วยการประมวลผลที่ระบบปฏิบัติการมองเห็น มากถึง 4 ซีพียูเลย (2 คอร์ และ แต่ละคอร์ มี Hyper-Threading) 
ซึ่งจะทำให้การทำงานแบบ multi-threading ของ เพนเทียม เอ๊กซ์ นั้น มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าซีพียูดูอัล-คอร์ทั่วไปอย่างแน่นอน





9.CPU Pentium Dual Core






                                                 


หลังจากอินเทลได้ทำการเปิดตัวซีพียูตระกูล Core 2 ไปได้พักใหญ่ๆ หลายคนก็คงจะคิดว่านี่เป็นการสิ้นสุดของ
ซีพียูที่ชื่อว่า “Pentium” ซึ่งถือว่าเป็นชื่อของซีพียูที่อินเทลใช้งานมานานมาก แต่เมื่อไม่นานมานี้อินเทลได้ปรับ
กลยุทธ์ทางการตลาดเล็กน้อย เพื่อเป็นการลดช่องว่างในการตลาดของตนและปิดช่องทางของซีพียูในตลาดล่าง
จากคู่แข่ง อินเทลจึงได้นำชื่อของ Pentium มาปัดฝุ่นที่จับอยู่บางๆ อีกครั้ง โดยนำเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง
 Core Microarchitecture มาใช้กับ Pentium เพื่อเติมเต็มให้กับตลาดซีพียูของตน






10.ซีพียูตระกูล Pentium D 
             960, 950, 945, 940, 930, 925, 920, 915, 840, 830, 820, 805  CPU Dual-core มีความเร็วตั้งแต่
 2.8 - 3.60GHz มี Cache L2 ตั้งแต่ 2 - 4MB มี FSB 800MHz ไม่มี Hyper-Threading มีระบบประหยัดพลังงาน 
Intel SpeedStep (ยกเว้น PentiumD820,805) รองรับ EM64T มีเทคโนโลยีป้องกันการโจมตีของไวรัส ใช้การผลิตแบบ
 90 และ 65นาโนเมตร บน LGA775    
ที่มา: